The Blue House: ความเกรียงไกรที่เลือนหายไปตามกาลเวลา
ในยุคสมัยที่เงินตราและชื่อเสียงมีค่ามากกว่าตราบนอกเสื้อ ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ เชลซี ภายใต้การนำทัพของ เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่ ไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับเกียรติยศที่เหล่าตำนานสโมสรเคยฝากรอยเท้าเอาไว้ได้เลย
เรื่องราวน่าสนใจจากปากของนักเตะภายใต้การบังคับบัญชาของสองกัปตันผู้ยิ่งใหญ่ อย่าง จอห์น เทอร์รี่ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ว่ากันว่า มีอำนาจเหนือเสียยิ่งกว่ากุนซือทุกคนที่เคยกุมบังเหียน นี่คือผู้นำตัวจริงทั้งในสนามและห้องแต่งตัว
จอห์น โอบี มิเกล อดีตมิดฟิลด์ตัวรับและกัปตันทีมชาติไนจีเรีย กล่าวว่า หากเกมไหน เชลซี พ่ายแพ้หรือถูกขึ้นนำ จะไม่มีใครอยากอยู่ในห้องแต่งตัวเลย เพราะนอกจากสองผู้นำดังกล่าวแล้ว ยังมีตำนานนักเตะอย่าง มิชาเอล บัลลัค, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา หรือ ปีเตอร์ เช็ค ร่วมวงสาวหมัด กระชากคอเสื้อ จนห้องแต่งตัวเละเทะไปหมด แม้แต่เก้าอี้ยังถูกขว้างจนซื้อใหม่กันแทบไม่ทัน นั่นเพราะศักดินาของพวกเขาอยู่ในระดับทัดเทียมกัน…สวมปลอกแขนให้ชาติตนเองด้วยกันทั้งนั้น
บรรดากุนซือ ‘สิงห์บลู‘ ทั้งหลายแหล่ มีหน้าที่แค่ "บอกแท็คติค" เพียงอย่างเดียว คุณแค่ต้องไกด์ว่า เราจะใช้แผนไหนในการเล่น? แต่ไม่มีหน้าที่ปลุกใจหรือด่าแบบไดร์เป่าผม แถมอาจจะถูกเชิญออกจากห้องไปก่อนด้วยซ้ำ เพราะนี่คือหน้าที่ของกัปตันทีมทั้ง จอห์น เทอร์รี่ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด
กุส ฮิดดิ้งค์ ทราบเรื่องนี้ดี และเผยว่าเขามีเวลาแค่ 5 นาที ในช่วงพักครึ่งเท่านั้น ที่เหลือนักเตะจัดการกันเอง!
รายงานจากสื่ออังกฤษ สะบัดน้ำหมึกออกมาว่า ฟอร์มการเล่นอันน่าอดสูในฤดูกาลนี้ หากเกิดขึ้นในยุคเกือบ 2 ทศวรรษก่อนล่ะก็ วันถัดมาจะไม่มีใครพูดอะไรกันเลย และสองกัปตันจะนำผู้เล่นมาซ้อมหนักกว่าที่เคยเป็น ใครงอแงมีโดนรุมเฉดหัวแน่ ๆ เพราะความพ่ายแพ้แม้แต่นัดเดียว เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ของ กัปตันเชลซี
เอาแค่เสมอในบ้านกับจักรพรรดิยุโรป อย่าง เรอัล มาดริด หรือ บาร์เซโลน่า ยังทะเลาะกันจะเป็นจะตายเลย แล้วนี่ทีมชุดปัจจุบันเสร่อแพ้ให้กับ ‘ผึ้งน้อย’ เบรนท์ฟอร์ด คา แสตมฟอร์ด บริดจ์ อ่ะนะ...ไม่อายก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วจริง ๆ
เขียนโดย What The Fluke
The Lite Team.